ผลผลิต

องุ่นไร้เมล็ด
Seedless Grape

องุ่นไร้เมล็ด มีชื่อวิทยาศาสตร์ “Vitis vinifera” เป็นไม้ผลชนิดเถาเลื้อย มีอายุยาวนานหลายปี สามารถปลูกได้ในสภาพภูมิอากาศหลายแบบแต่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น จะให้ผลผลิตมีคุณภาพสูงกว่า โดยเฉพาะในพื้นที่วังน้ำเขียว เริ่มมีการปลูกองุ่นไร้เมล็ดอย่างแพร่หลาย ในส่วนของ ฟ้าประทาน ฟาร์ม ได้เริ่มปลูกองุ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เป็นพันธุ์แบล็คโอปอล์

ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 ได้ขยายพื้นที่ปลูกองุ่น โดยปลูกในโรงเรือน พร้อมกับได้ทดสอบการปลูกองุ่นสายพันธุ์อื่น ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อหาพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ ได้แก่ องุ่นไร้เมล็ด 4 สายพันธุ์ คือ แบล็คโอปอล์ ลูสเพอร์เลท แดงเล็บมือนาง และแบล็คบิวตี้ องุ่นมีเมล็ด 4 สายพันธุ์ คือ คาร์ดินัล ไวท์มะละกา ป๊อกดำ และพันธุ์ลิ้นจี่ ปัจจุบันฟ้าประทานฟาร์ม ปลูกองุ่นไร้เมล็ดแบล็คโอปอล์ (สีม่วงดำ) เป็นหลัก และมีลูสเพอร์เลท (สีเขียว) บางส่วนในโรงเรือน ขนาด 6x40 เมตร จำนวน 118 โรงเรือน

ผลองุ่น มีลักษณะเป็นพวง ผลย่อยมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรีเป็นรูปไข่ พันธ์แบล็คโอปอล์ ผลเป็นสีม่วงดำ ส่วนพันธ์ลูสเพอร์เลท ผลเป็นสีเขียว เปลือกผลจะมีผงสีขาวเคลือบอยู่ เนื้อในผลขององุ่นจะฉ่ำน้ำ ไม่มีเมล็ด

มาตรฐานการผลิตองุ่นไร้เมล็ดฟ้าประทานฟาร์ม
ดำเนินการผลิตตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice : GAP) แนวทางในการทำเกษตร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด โดยขบวนการผลิตจะต้องปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีไม่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้ผลผลิตสูงคุ้มคุ้มค่าการลงทุน มีการก่อให้เกิดความยั่งยืนทางการเกษตรสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม

มาตรฐานองุ่นไร้เมล็ดฟ้าประทานฟาร์ม
องุ่นแบล็คโอปอล์ ผลกลมสีดำ เปลือกบาง ไม่มีเมล็ด รสชาติหวาน กรอบ เก็บเป็นช่อ คัดเกรดและทำความสะอาดก่อนแพ็ค

เกรดมาตรฐาน (MIX) น้ำหนัก 100-299 กรัม/ช่อ ความหวาน > 15 Brix
เกรดคัดพิเศษ (AA) น้ำหนัก > 300 กรัม/ช่อ ความหวาน > 15 Brix

มาตรฐานองุ่นไร้เมล็ดฟ้าประทานฟาร์ม
องุ่นลูสเพอเรท ผลกลมสีเขียวเหลือง เปลือกบาง ไม่มีเมล็ด รสชาติหวาน กรอบ เก็บเป็นช่อ คัดเกรดและทำความสะอาดก่อนแพ็ค

เกรดมาตรฐาน (MIX) น้ำหนัก 100-249 กรัม/ช่อ ความหวาน > 15 Brix
เกรดคัดพิเศษ (AA) น้ำหนัก > 250 กรัม/ช่อ ความหวาน > 15 Brix

วิธีการผลิตองุ่นไร้เมล็ด
ฟ้าประทานฟาร์มปลูกองุ่นไร้เมล็ดในที่ดอน โดยไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืชและทำให้ดินร่วนซุย ใช้ระยะปลูก 3×4 เมตร ขุดหลุมปลูกมีขนาดกว้าง ยาว และลึก ประมาณ 50 เซนติเมตร ผสมดิน ปุ๋ยคอก และปุ๋ยร็อกฟอสเฟต เข้าด้วยกัน หลังปลูก ปักไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมพัดโยก ใช้วัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง รดน้ำจนโชก ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด

  • การทำค้าง จะทำหลังจากที่ปลูกองุ่นไปแล้วประมาณ 1 ปี ซึ่งต้นองุ่นจะสูงพอดีที่จะขึ้นค้างได้ ใช้เสาซีเมนต์หน้า 3 นิ้ว เสาค้างซีเมนต์จะแข็งแรงทนทานอยู่ได้นานหลายปี
  • การตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ออกดอก การจะให้ต้นองุ่นออกดอกได้ต้องตัดแต่งกิ่งช่วยหลังจากต้นองุ่นพักตัวอย่างเต็มที่แล้ว และก่อนตัดแต่งกิ่ง ต้องงดการให้น้ำ 7 วัน เพื่อให้องุ่นออกดอกได้มาก อายุการตัดแต่งให้ออกดอกในครั้งแรก หรือ “มีดแรก” ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น อายุของต้น และพันธุ์ เป็นต้น หลังจากการตัดแต่งกิ่งได้ 15 วัน องุ่นจะแตกกิ่งใหม่ออกมาจำนวนมาก มีทั้งกิ่งที่มีช่อดอก กิ่งที่มีแต่ใบอย่างเดียว และกิ่งแขนงเล็กๆ ซึ่งกิ่งแขนงเล็กพวกนี้ให้ตัดออกให้หมด เหลือไว้เฉพาะกิ่งที่มีช่อดอก และกิ่งที่มีแต่ใบอย่างเดียวที่เป็นกิ่งขนาดใหญ่เท่านั้น
  • การตัดแต่งช่อองุ่น หลังจากจัดกิ่งเรียบร้อยแล้ว ช่อดอกจะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตัดแต่งช่อที่ติดเป็นผลเล็กๆ แล้ว โดยเลือกช่อที่เห็นว่ามีขนาดเล็กรูปทรงไม่สวย ติดผลไม่สม่ำเสมอ มีแมลงทำลาย และเหลือช่อที่มีรูปทรงสวยไว้ให้กระจายอยู่ทั่วทุกกิ่งอย่างสม่ำเสมอ หลังจากนั้น ตัดแต่งผลในช่อออกบ้างให้เหลือพอดี ไม่แน่นเกินไปหรือโปร่งเกินไป การตัดแต่งผลออกจากช่อมักทำ 1-2 ครั้ง เมื่อผลโตพอสมควร
  • การใส่ปุ๋ย
    • ปุ๋ยอินทรีย์…เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก มีคุณสมบัติทำให้โครงสร้างของดินดี ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุกปีๆ ปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง ครั้งละ 5-10 กิโลกรัม ต่อต้น เพราะทำให้โครงสร้างของดินดี
    • ปุ๋ยเคมี ระยะเลี้ยงเถา การใส่ปุ๋ยช่วงนี้เพื่อบำรุงรักษาต้นให้มีการเจริญเติบโตของลำต้น กิ่ง ก้าน ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 แต่อัตราการใส่นั้นขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นองุ่นด้วย และระยะองุ่นที่ให้ผลแล้ว แบ่งใส่ 4 ระยะ ดังนี้
      • ระยะที่ 1 หลังการเก็บเกี่ยวมีดแรกใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เพื่อบำรุงต้นพร้อมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
      • ระยะที่ 2 หลังตัดแต่งกิ่ง 7-15 วัน ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เพื่อบำรุงยอด ใบ และดอก ที่ผลิขึ้นมาใหม่
      • ระยะที่ 3 หลังตัดแต่งกิ่ง 45 วัน ให้ใส่ปุ๋ย เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของผล
      • ระยะที่ 4 หลังตัดแต่งกิ่ง 75 วัน ระยะนี้ควรใส่ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูง เพื่อเพิ่มคุณภาพผลองุ่น สีผิวและรสชาติ
  • การให้น้ำ องุ่นมีความต้องการน้ำมาก จึงต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้แห้ง โดยเฉพาะหลังจากตัดแต่งกิ่ง ต้องให้น้ำเพื่อให้ดินชื้นอยู่ ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ จนถึงระยะที่ผลแก่ จึงงดการให้น้ำ 2-4 สัปดาห์ ก่อนวันตัดผล จะทำให้องุ่นมีคุณภาพดี รสหวานจัด และสีสวย
  • การเก็บเกี่ยวผลองุ่น องุ่นเป็นผลไม้บ่มไม่ได้ การเก็บผลองุ่นจึงต้องเก็บในช่วงที่ผลแก่เต็มที่ และไม่แก่เกินไป นอกจากสีของผลแล้ว อาจดูจากความหวานของผลโดยการทดลองชิมดู หรือใช้เครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ความหวาน (น้ำตาล) หรืออาจดูจากขั้วช่อผล ถ้าผลแก่จัด ขั้วของช่อผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาล ช่วงสำคัญคือ งดการให้น้ำแก่ต้นองุ่นสักระยะหนึ่งก่อนการตัดผล เพื่อให้ผลองุ่นมีคุณภาพดีสำหรับองุ่นที่ปลูกอยู่ในแปลงเดียวกันจะแก่ไม่พร้อมกัน การเก็บจำเป็นต้องเก็บหลายครั้ง โดยเลือกเก็บเฉพาะช่อที่แก่เต็มที่ก่อน และทยอยเก็บไปเรื่อยๆ จนหมด
  • การคัดเลือก ตัดแต่ง การควบคุมคุณภาพและการบรรจุภัณฑ์ การเก็บใช้กรรไกรตัดที่ขั้วผลแล้วบรรจุลงเข่ง หรือลังไม้ที่บุหรือรองด้วยกระดาษห่อฝอยหรือใบตอง เพื่อป้องกันการชอกช้ำในขณะขนย้ายไปโรงคัดและบรรจุ พนักงานจะคัดเลือกช่อที่มีความสมบูรณ์หรือตัดแต่งลูกที่ไม่สมบูรณ์ออกและทำความสะอาด พนักงานควบคุมคุณภาพจะตรวจสอบความสมบูรณ์และความหวาน รวมถึงคัดเกรด ก่อนใส่บรรจุภัณฑ์ตามที่ลูกค้ากำหนด และขนส่งโดยรถห้องเย็นไปจุดที่ลูกค้ากำหนด

คุณประโยชน์ขององุ่น

  • ช่วยในการบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงกำลัง และแก้อาการกระหาย
  • องุ่นเขียวอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น คาเทชิน (Catechin) และ เทอโรสติลบีน (Petrostilbene) ที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคของระบบประสาท โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดหัวใจ ลูคีเมีย และช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและเชื้อราต่าง ๆ
  • องุ่นดำอุดมไปด้วยไฟเบอร์ มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยทำให้การทำงานของไส้เป็นไปอย่างปกติ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ ช่วยเพิ่มการสร้างเกล็ดเลือดและเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์เพื่อช่วยปกป้องเส้นเลือดแดง และช่วยต่อต้านความเครียด
  • องุ่นสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ เช่น น้ำองุ่น แยมองุ่น เยลลี่องุ่น องุ่นอบแห้ง ลูกเกด เป็นต้น
  • ช่วยลดความดันโลหิตสูง