ผลผลิต

เมลอน
Melon

สภาพแวดล้อมที่เหมาะของ ของอำเภอวังน้ำเขียว ลักษณะภูมิอากาศ ของอำเภอวังเขียวมีอากาศที่เย็นสบายเกือบ ทั้งปี ฝนชุก และมีหมอกมาก นอกจากนี้ยังมีการทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ของพื้นที่ ทั้งสวนผัก ผลไม้นานาชนิด ดังนั้น ฟ้าประทาน ฟาร์ม จึงได้ทำการปลูกเมล่อนสายพันธุ์บารมีที่เป็นสายพันธ์ที่คัดเลือกแล้วว่ามีคุณภาพสูง รสชาติดีมาก ในปี พ.ศ. 2563

ผิวตาข่าย เนื้อส้ม หวานกรอบ มีความหวาน 14-15 Brix ได้น้ำหนัก 1.5-2 กิโลกรัม ต่อผล อายุเก็บเกี่ยวหลังผสมดอกประมาณ 38-42 วัน โดยปลูกในโรงเรือน ด้วยระบบไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกพืชโดยให้รากพืชสัมผัสกับสารละลายธาตุอาหารตลอดเวลา กำลังในการผลิต ต่อ 1 โรงเรือนนั้น จะสามารถ ปลูกได้อยู่ที่ 1,018 ต้น โดยจะไว้ผลผลิตเมล่อน เพียง 1 ผล ต่อ 1 ต้น เพื่อให้ผลของเมล่อน มีรสชาติที่ดี อร่อย และรูปลักษณ์สวยงาม ตาม Spec

การบริโภคเมล่อน ให้อร่อยนั้น แนะว่า ก่อนทานควรแช่เตู้เย็นประมาณ 4 ถึง 6 ชั่วโมงก่อนรับประทาน และเพื่อให้ความหวานของเมล่อนสม่ำเสมอทั่วทั้งผลให้คว่ำด้านขั้วเมล่อนลงก่อนรับประทาน 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นผ่าครึ่งใช้ช้อนเขี่ยเฉพาะเมล็ดทิ้ง ที่สำคัญไม่ควรใช้มีดปาดไส้กลางทิ้ง แบบการปลอกมะละกอ เนื่องจากไส้กลางบริเวณที่ติดกับเมล็ดนั้นเป็นส่วนที่หวานที่สุดของเมล่อน หลังจากนั้นนำมาผ่าเป็นเสี้ยวแล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ จะได้เมล่อนที่หวาน หอม อร่อย ที่สุด และควรหั่นให้พอดีทานหมดเท่านั้น ไม่ควรแช่เมล่อนที่หั่นเป็นชิ้นๆแล้วทิ้งไว้ในตู้เย็น จะทำให้เสียรสชาติ และกลิ่นหอมของเมล่อนไป

เพื่อให้ได้เนื้อเมล่อนญี่ปุ่นที่มีความนุ่มพอดีกับที่เราชอบทาน เราสามารถเก็บเมล่อนไว้ตามระยะเวลาดังนี้

  • หลังตัด 1-3 วัน เนื้อกึ่งนุ่ม กึ่งกรอบ
  • หลังตัด 3-5 วัน เนื้อนุ่มฉ่ำ
  • หลังตัด 5-8 วัน เนื้อนุ่มฉ่ำตักทานได้

มาตรฐานการผลิตเมล่อน
ฟ้าประทานฟาร์ม ดำเนินการผลิตเมล่อนตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice : GAP) แนวทางในการทำเกษตร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด โดยขบวนการผลิตจะต้องปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีไม่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้ผลผลิตสูงคุ้มคุ้มค่าการลงทุน มีการก่อให้เกิดความยั่งยืนทางการเกษตรสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม

  • มาตรฐานเมล่อนของฟ้าประทาน ฟาร์ม

  • ลักษณะ : ผิวตาข่าย เนื้อส้ม หวานกรอบ มีความหวาน
  • ขนาด : 18-25 ซม./กก
  • น้ำหนัก : 1.5-2.0 ผล/กก.

ขั้นตอนการเพาะกล้าเมล่อน

  • เปิดถุงเมล็ดพันธุ์ที่บ่มไว้ โดยเลือกเมล็ดที่ปากเมล็ดเริ่มอ้าหรืองอกแล้ว มาใส่ลงในฟองน้ำที่อุ้มน้ำหรือฉ่ำน้ำสำหรับเพาะเมล็ด
  • ใส่เมล็ดพันธุ์ โดยเอาด้านที่มีรากงอกออกมา ใส่ลงในฟองน้ำ โดยใส่เมล็ด แถวเว้นแถว
  • นำฟองน้ำที่ใส่เมล็ดแล้ว ใส่ในกล่องโฟม โดยเติมน้ำให้ความสูงของน้ำอยู่ประมาณครึ่งของความสูงฟองน้ำ
  • เติมน้ำทุกวัน โดยแบ่งเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย เพื่อให้ฟองน้ำฉ่ำน้ำตลอดเวลา
  • หลังจากทำการใส่เมล็ดลงในฟองน้ำแล้ว 3-5 วัน ต้นกล้าจะเริ่มมีใบเลี้ยงออกมาสองใบ

ขั้นตอนการฉีดพ่นฮอร์โมนบำรุงต้น
ฉีดพ่นฮอร์โมนบำรุงต้นตามกำหนดเวลา เพื่อให้ต้นและลูกเมล่อนสมบูรณ์

การเช็ดลูกเมล่อน
จะสัมผัสลูกเมล่อนอย่างระมัดระวัง และเบามือให้มากที่สุด โดยจะนำผ้าแห้งสะอาด มาถูกที่ผิวของเมล่อน ลูบให้ทั่วทั้งลูก ซึ่งจะมีสะเก็ดขาวๆ ร่วงออกมา ในการเช็ดลูก จะทำให้ลายของเมล่อนหลุดออกและเกิดการซ่อมแซม จะทำให้ลายหนานูนขึ้นมาสวยงาม

การเก็บเกี่ยว
หลังจากปลูกได้ประมาณ 75 วัน จะทำการเก็บเกี่ยว

  • เลือกตัดผลเมล่อน รุ่นที่ 1 และ รุ่นที่ 2 (ก้านที่ผูกด้วยเชือกสีแดงและสีเหลือง) และนำลูกเมล่อนที่ตัดแล้ว ใส่ในตะกร้าเพื่อขนย้ายไปที่โรง Pack
  • แต่งผลเมล่อนโดยการตัดก้านซ้าย-ขวา ไว้ความยาวประมาณ 5-10 cm. โดยทั้งสองด้านความยาวเท่ากัน
  • นำผ้าแห้งสะอาด เช็ดที่ผิวของผลเมล่อนอย่างเบามือ ให้สะอาด
  • ชั่งน้ำหนักผลเมล่อน แต่ละผล เพื่อเก็บตัวเลขผลผลิต
  • นำตาข่ายโฟมห่อหุ้มที่ผลของเมล่อน และแขวนป้ายสินค้า
  • จัดเรียงผลเมล่อนที่ Pack เสร็จสมบูรณ์แล้วลงตะกร้า เพื่อรอขนส่ง

คุณประโยชน์ของเมล่อน
มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก และไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก